โรคเอดส์

ความหมาย
1. เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือกขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรค ทำให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการจะรุนแรง และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต
สาเหตุและการติดต่อโรคเอดส์ (AIDS)
1. โรคเอดส์เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส HIV ซึ่งเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน โรคหรือกลไกต่อต้านเชื้อโรคของร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันลดน้อยลงหรือไม่มี ร่างกายจึงติดเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ ได้ง่าย แม้กระทั่งเชื้อที่พบอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ ซึ่งตามปกติแล้วจะไม่ทำให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดมะเร็งของผิวหนังบาง ชนิดเชื้อไวรัส HIV จะมีอยู่ในเลือดหรือสารคัดหลั่งต่าง ๆ เช่น น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด น้ำลาย น้ำตา น้ำนม น้ำเหลือง เสมหะ และปัสสาวะของผู้ป่วยที่มีเชื้อเอดส์ เชื้อจะติดต่อไปยังผู้อื่น โดยผ่านทางบาดแผล รอยฉีกขาดที่ผิวหนัง หรือเยื่อบุ ของร่างกาย
2. ทางติดต่อที่สำคัญ
  1. 1.ในผู้ใหญ่โดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อเอดส์ ทั้งแบบรักร่วมเพศ หรือรักต่างเพศ ผู้ชายที่มีประวัติเที่ยวหญิงโสเภณี มีโอกาสติดเชื้อสูง และเมื่อติดเชื้อแล้วก็จะนำมาแพร่ให้กับภรรยา ซึ่งแพร่ไปยังทารกในครรภ์ได้ต่อไป
  2. 2.การได้รับเชื้อเอดส์ผ่านเข้าทางกระแสเลือด เช่น การใช้เข็มฉีดยา กระบอกฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ
  3. 3.การถ่ายทอดเชื้อเอดส์จากมารดาสู่ทารก ในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเชื้อผ่านทางรกหรือระหว่างคลอด โดยมีการฉีกขาดของผิวหนัง หรือเยื่อบุของลูก และเชื้ออาจผ่านทางน้ำนมไปสู่เด็กได้
อาการโรคเอดส์ (AIDS)
1. 1.ท้องเสียเรื้อรังมากกว่า 1 เดือน
2. 2.มีไข้นานเกินกว่า 1 เดือน
3. 3.มีการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างอย่างเรื้อรัง หรือเป็นรุนแรง
4. 4.มีต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไป หรือมีตับ ม้ามโต
5. 7.มีผื่นที่ผิวหนังทั่วตัว
6. 5.มีการติดเชื้อรา เป็นฝ้าขาวในปากและคอ
7. 6.ไอเรื้อรัง
8. 8.น้ำหนักลด
ปัจจัยที่ทำให้ติดเชื้อเอดส์
1. 1.ปริมาณเชื้อเอดส์ที่ได้รับ หากได้รับเชื้อเอดส์มาก โอกาสติด โรคเอดส์ ก็จะสูงขึ้นไปด้วย โดยเชื้อเอดส์ จะพบมากที่สุดในเลือด รองลงมาคือ น้ำอสุจิ และน้ำในช่องคลอด
2. 2.หากมีบาดแผล จะทำให้เชื้อเอดส์เข้าสู่บาดแผล และทำให้ติด โรคเอดส์ ได้ง่ายขึ้น
3. 3.จำนวนครั้งของการสัมผัส หากสัมผัสเชื้อโรคบ่อย ก็มีโอกาสจะติดเชื้อมากขึ้นไปด้วย
4. 4.การติดเชื้ออื่นๆ เช่น แผลริมอ่อน แผลเริม ทำให้มีเม็ดเลือดขาวอยู่ที่แผลจำนวนมาก จึงรับเชื้อเอดส์ได้ง่าย และเป็นหนทางให้เชื้อเอดส์เข้าสู่แผลได้เร็วขึ้น
5. 5.สุขภาพของผู้รับเชื้อ หากสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ในขณะนั้น ก็ย่อมมีโอกาสที่จะรับเชื้อได้ง่ายขึ้น
ระยะของโรคเอดส์
1. 1.ระยะไม่ปรากฎอาการ (Asymptomatic stage)
2. 2.ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์ (Aids Related Complex หรือ ARC)
3. 3.ระยะเอดส์เต็มขั้น (Full Blown AIDS)
ข้อควรปฏิบัติหากได้รับเชื้อเอดส์
1. 1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
2. 2.รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
3. 3.หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือหากมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการรับเชื้อ หรือแพร่เชื้อเอดส์
4. 4.งดการบริจาคเลือด อวัยวะ และงดใช้สิ่งเสพติดทุกชนิด
5. 5. หากเป็นหญิง ไม่ควรตั้งครรภ์ เพราะเชื้อเอดส์สามารถถ่ายทอดสู่ลูกได้ถึง 30%
6. 6. ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด ไม่กังวล รวมทั้งอาจฝึกสมาธิ
7. 7.อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
การป้องกัน โรคเอดส์
1. 1. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์
2. 2. รักเดียว ใจเดียว
3. 3. ก่อนแต่งงาน หรือมีบุตร ควรตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และขอรับคำปรึกษาเรื่อง โรคเอดส์ จากแพทย์ก่อน
4. 4. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด

Next up

โรคเอดส์

Description

Resource summary

Similar

	Created by สุพัดชราภรณ์ เสนาจันทร์ about 8 years ago